ฐานข้อมูลองค์ความรู้ : MJU Wisdom
ข้อมูลแมลง
การเพาะปลูกในระบบเกษตรอาจมีปัญหาแมลงศัตรูพืชระบาดได้ เช่น เพราะสมดุลระบบนิเวศของฟาร์มหรือแปลงปลูกอาจสูญเสียไปด้วยเหตุบางประการ ดังนั้นเกษตรกรจะต้องหมั่นสำรวจและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของประชากรแมลงศัตรูพืช และศัตรูธรรมชาติว่าอยู่ในภาวะสมดุลหรือไม่ ซึ่งในระบบนิเวศการเกษตรที่สมดุลจะต้องมีทั้งแมลงศัตรูพืชและศัตรูธรรมชาติอยู่ จากนั้นเกษตรกรจะต้องประเมินว่าระบบนิเวศฟาร์มยังคงมีสมดุลของประชากรศัตรูพืชและศัตรูธรรมชาติอยู่หรือไม่ ในกรณีที่ระบบนิเวศยังสมดุล เกษตรกรไม่ควรดำเนินการใด ๆ ทั้งนี้เพราะความพยายามกำจัดแมลงศัตรูพืช หรือศัตรูพืชตามธรรมชาติในขณะที่นิเวศการเกษตรมีความสมดุลอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสมดุล (เสียสมดุล) ในทิศทางที่ทำให้ประชากรของศัตรูพืชระบาดเพิ่มขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ในแปลงนาข้าวที่มีเพลี้ยกระโดดอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีแมงมุมและด้วงดิน ซึ่งเป็นตัวห้ำของเพลี้ยกระโดดอยู่แล้ว ความพยายามใช้สมุนไพรกำจัดเพลี้ยกระโดด (เช่น การฉีดสารสกัดหางไหลหรือใช้ยาสูบ) อาจทำให้แมงมุมและด้วงดินตายในสัดส่วนมากกว่าเพลี้ยกระโดด ซึ่งการเสียสมดุลนี้จะทำให้เพลี้ยกระโดดกลับขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความพยายามในการกำจัดแมลงศัตรูพืชอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตโดยไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงขณะที่ข้าวกำลังเริ่มแตกกอ ถ้ามีการระบาดของหนอนกระทู้ซึ่งทำลายใบข้าวไม่เกิน 50% ในกรณีนี้ เกษตรกรยังไม่จำเป็นต้องกำจัดหนอนกระทู้ เพราะต้นข้าวสามารถแตกกอและใบข้าวออกมาทดแทนใบที่ถูกทำลายได้ โดยผลผลิตข้าวจะไม่ลดลงเนื่องจากใบข้าวถูกทำลายลง (หากไม่เกิน 50%) การพยายามกำจัดหนอนกระทู้ในกรณีนี้จึงอาจจะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตโดยไม่จำเป็น และอาจสร้างผลกระทบต่อสมดุลนิเวศการเกษตรดังกรณีข้างต้นอีกด้วยก็เป็นได้
แต่อาจด้วยเหตุปัจจัยใดก็ตามที่ทำให้กลไกธรรมชาติในการจัดการแมลงศัตรูพืช และศัตรูพืชไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกษตรกรก็อาจจะต้องแทรกแซงกลไกธรรมชาติดำเนินการจัดการกำจัดแมลงศัตรูพืช และศัตรูพืชด้วยตนเอง ซึ่งแนวทางและวิธีการที่เหมาะสมในการกำจัดศัตรูพืชในระบบเกษตรยั่งยืนคือ
แมลงศัตรูพืช หมายถึง สัตว์ที่มีลำตัวเป็นปล้อง (Arthropods) จัดอยู่ในชั้น (class) Insecta ประกอบด้วยสัตว์ประมาณ 26 อันดับ (order) ซึ่งสัตว์เหล่านี้ได้ก่อความเสียหายแก่พืชเพาะปลูก แมลงเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำตัวแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ ส่วนศรีษะ (head) อก (thorax) และท้อง (abdomen) ซึ่งบนส่วนอกมี 3 ปล้อง ซึ่งแต่ละปล้องมีขา 1 คู่ ส่วนท้องมี 8-11 ปล้อง แมลงมีผนังหุ้มลำตัวแข็ง (exoskeleton) ดังนั้นการเจริญเติบโตของแมลงจึงต้องอาศัยการลอกคราบ (molting) การจำแนกชนิดของแมลงที่ถูกต้องจะแบ่งตามหลักการอนุกรมวิธานโดยนักกีฏวิทยา (entomologist) แต่ในที่นี้จะขอแบ่งชนิดของแมลงศัตรูพืชออกตามลักษณะของการทำลายดังนี้
แมลงศัตรูธรรมชาติ หมายถึง แมลงที่เป็นประโยชน์และมีบทบาทในการควบคุมแมลงศัตรูพืช (Insect pest) โดยชีววิธีและเป็นปัจจัยทางชีวภาพ (Biotic factor) ที่ช่วยควบคุมปริมาณของแมลงศัตรูพืชให้อยู่ในสภาพสมดุลตามธรรมชาติ (Natural balance) ซึ่งแมลงศัตรูธรรมชาติในที่นี้ หมายถึงแมลงห้ำ (Predator) และแมลงเบียน (Parasite)
แมลงตัวหํ้าและแมลงตัวเบียน แม้ว่าแมลงจะมีการสืบพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถแพร่พันธุ์เพิ่มปริมาณได้อย่างรวดเร็ว แต่แมลงก็มีศัตรูธรรมชาติมากมายที่คอยควบคุมประชากรของแมลงให้อยู่ในสมดุล ศัตรูธรรมชาติของแมลงได้แก่ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นอันตรายต่อแมลง และอีกอย่างที่สำคัญก็คือแมลงด้วยกันเอง แมลงหลายชนิดที่กินหรืออาศัยอยู่ภายในหรือภายนอกตัวของแมลงชนิดอื่น แมลงเหล่านี้เรียกว่า ตัวหํ้าและตัวเบียน ซึ่งปกติแล้วจะมีอยู่จำนวนมากพอที่จะควบคุมจำนวนประชากรของแมลงชนิดหนึ่ง ๆ ให้อยู่ในสมดุล คือไม่ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันมนุษย์ได้ทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์ไปมาก ทั้งทางตรง และทางอ้อม คือ ไปรบกวน เปลี่ยนแปลงสภาพถิ่นที่อยู่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของแมลงจนทำให้แมลงตัวหํ้า และตัวเบียนลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันได้มีการช่วยเพิ่มปริมาณแมลงตัวหํ้าและตัวเบียน เช่น การเพาะเลี้ยงแมลงเหล่านี้แล้วนำไปปลดปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เรียกวิธีการนี้ว่า การป้องกันกำจัดแมลงแบบชีววิธี (Biological Control) ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพราะไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
แมลงตัวหํ้า (Predators) หมายถึง แมลงที่ทั้งระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัยกินแมลงที่เป็นเหยื่อ (Prey) ชนิดเดียวกันเป็นอาหาร แมลงตัวหํ้าจะมีลักษณะที่สำคัญต่างจากแมลงตัวเบียน คือ
แมลงตัวเบียน (Parasites) หมายถึง แมลงที่พัฒนาการเจริญเติบโตระยะไข่ ระยะตัวหนอน ในแมลงอาศัย (Host) 1 ตัวและอาจจะเข้าดักแด้ภายในหรือภายนอกแมลงอาศัย ตัวเต็มวัยกินน้ำหวานจากดอกไม้เป็นอาหารแมลงตัวเบียนมีลักษณะที่แตกต่างจากแมลงตัวหํ้า คือ