ฐานข้อมูลองค์ความรู้ : MJU Wisdom
เนื้อหา
1.การเตรียมความพร้อมในการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์
2.พันธุ์ไก่ไข่อินทรีย์
3.การสร้างฟาร์มและโรงเรือนตามมาตรฐาน
4.อาหารและน้ำไก่ไข่อินทรีย์
5.การสุขาภิบาล
6.การจัดการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์
7.การทำบรรจุภัณฑ์ไข่ไก่อินทรีย์
8.ตลาดไข่ไก่อินทรีย์
9.ต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์
การเริ่มต้นในการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์
การพัฒนาพื้นที่เพื่อขอรับรองมาตรฐานปศุสัตว์อินทรีย์-ฟาร์มไก่ไข่
การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม ต้องอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน เป็นพื้นที่ที่ไม่มีการปนเปื้อนจากสารเคมี มีแนวป้องกันจากภายนอกโดยธรรมชาติยิ่งดี
การวางผังฟาร์มเพื่อให้การเลี้ยงสัตว์ทำได้สะดวกและถูกต้องตามหลักสูขาภิบาลและมาตรฐานฟาร์มไก่ไข่อินทรีย์
พันธุ์ไก่ไข่อินทรีย์
พันธุ์ไก่ไข่ที่สามารนำมาเลี้ยงในระบบอินทรีย์สามารถใช้พันธุ์ใดก็ได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้เลี้ยง ถ้าต้องการเลี้ยงแบบใช้ต้นทุนค่าอาหารต่ำ ให้ผลผลิตได้ดีพอสมควร สามารถเลี้ยงไก่พันธุ์แท้ เช่น ไก่โร๊ดไอร์แลนด์แดง ที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีแล้ว หรือถ้าต้องการเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ ก็ต้องเลี้ยงไก่ไข่สายพันทางการค้า เนื่องจากมีการให้ผลผลิตไข่มาก หากได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี หรือหากต้องการเอกลักษณ์เฉพาะฟาร์มของตนเอง ให้เลี้ยงไก่ไข่พันธุ์แท้สายพันธุ์เลกฮอร์นขาว ซึ่งให้ไข่ที่มีเปลือกสีขาวแตกต่างจากไก่ไข่พันธุ์ทั่วไป
ไก่ไข่พันธุ์ทางการค้า
ไก่ไข่พันธุ์เลกฮอร์นขาว
สำหรับข้อกำหนดเกี่ยวกับตัวไก่ไข่ ควรจะได้รับการเลี้ยงดูในระบบอินทรีย์ตั้งแต่แรกเกิด หากหาพันธุ์ไก่ไข่ตามข้อกำหนดไม่ได้ ก็ต้องเลี้ยงในระบบอินทรีย์อย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนที่จะรับรองผลผลิตเป็นไข่อินทรีย์ได้ หากเป็นการซื้อไก่ไข่รุ่น (อายุ 17 สัปดาห์) มาเลี้ยงตามข้อกำหนดดังกล่าว (6 สัปดาห์ จึงจะถือได้ว่าผลผลิตไข่มาจากระบบอินทรีย์) กว่าไก่จะให้ผลผลิตได้มาก ก็จะใช้เวลาอีกประมาณ 4-5 สัปดาห์ ช่วงหลังจากนี้ ก็จะลงช่วงเวลาที่นับได้ว่าเป็นไข่อินทรีย์พอดี
ราคาพันธุ์ไก่ไข่ทางการค้า ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ซื้อและระยะทางการขนส่ง โดยทั่วไป มีราคาอยู่ระหว่าง 190-220 บาท ติดต่อซื้อได้ตามร้านค้าอาหารสัตว์ในพื้นที่ โดยทางร้านจะจองผ่านทางเอเย่นต์ขายไก่ไข่อีกทอดหนึ่ง หากต้องการเลี้ยงไก่พันธุ์แท้ สามารถติดต่อได้ตามศูนย์บำรุงพันธุ์สัตว์ที่มีพันธกิจในการผลิตพันธุ์สัตว์ปีกบริการให้กับเกษตรกร หรือตามช่องทางออนไลน์ ซึ่งมักจะมีราคาแพงกว่าซื้อจากหน่วยงานราชการ
3.การสร้างฟาร์มและโรงเรือนตามมาตรฐาน
การสร้างโรงเรือนไก่ไข่ โดยขนาดของโรงเรือนต้องคำนวณจากจำนวนสัตว์ที่ต้องการเลี้ยงให้ได้ตามมาตรฐานของไก่ไข่อินทรีย์ที่กำหนดขนาดของพื้นที่ภายในโรงเรือน 1 ตารางเมตรต่อไก่ 4 ตัว สำหรับพื้นที่ปล่อยซึ่งอยู่ภายนอกโรงเรือนต้องมีพื้นที่สำหรับไก่ 1 ตัว อย่างน้อย 4 ตารางเมตร และควรทำรั้วล้อมพื้นที่เลี้ยงเพื่อป้องกันศัตรูตามธรรมชาติ และการแพร่กระจายของโรคจากพาหะชนิดต่างๆ
ในตัวอย่างเป็นโรงเรือนขนาด 4 * 10 เมตร เลี้ยงไก่ไข่ได้ 150-160 ตัว ภานยในโรงเรือนมีรังไข่ และคอนสำหรับให้ไก่นอนในเวลากลางคืน มีพื้นที่ปล่อยขนาด 2 งาน หรือ 800 ตารางเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการเลี้ยงไก่ไข่จำนวนดังกล่าว พื้นที่ล้อมรอบด้วยรั้วตาข่าย มีต้นทุน
ลักษณะภายนอกโรงเรือนไก่ไข่
ลักษณะภายในโรงเรือน
พื้นที่เลี้ยงปล่อยภายในรั้วตาข่ายลวดถัก
4.อาหารและน้ำไก่ไข่อินทรีย์
อาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ มีข้อกำหนดขั้นต่ำ คือ อาหารต้องประกอบด้วยวัตถุดิบที่ผลิตจากระบบอินทรีย์อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ของวัตถุแห้ง ห้ามใช้สารสังเคราะห์เติมลงในอาหาร ต้องมีน้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่มักจะมาจากพืชที่ในระบบเกษตรอินทรีย์ เช่น ปลายข้าว รำ ข้าวโพด ถั่วเหลือง กระถิน ส่วนวัตถุดิบชนิดอื่นที่ไม่ได้มาจากระบบอินทรีย์ ได้แก่ ปลาป่น หินเกล็ด ไดแคลเซียมฟอสเฟต เป็นต้น โดยต้องคำนวณสูตรอาหารให้ตรงกับความต้องการของไก่ไข่สายพันธุ์ที่เลี้ยง
ตัวอย่างสูตรอาหารสำหรับไก่ไข่ที่เลี้ยงในฟาร์มของมหาวิทยาลัย
วัตถุดิบ |
ปริมาณ (%) |
|
ไก่เลกฮอร์นขาว |
ไก่ไข่การค้า |
|
ปลายข้าวอินทรีย์ |
64.50 |
46.00 |
ถั่วเหลืองไขมันเต็ม (อินทรีย์) |
19.78 |
35.00 |
ปลาป่น |
6.10 |
6.50 |
น้ำมันพืช |
- |
2.40 |
หินเกล็ด |
9.17 |
8.80 |
ไดแคลเซียมฟอสเฟต |
0.10 |
0.95 |
เกลือ |
0.35 |
0.35 |
รวม |
100 |
100 |
Nutrient Calculation |
||
Dry Matter |
89.76 |
90.83 |
Crude protein, % |
15.28 |
18.64 |
ME, kcal/kg |
2,921 |
2,741 |
Calcium, % |
4.07 |
4.09 |
Avail. Phosphorus, % |
0.30 |
0.42 |
Sodium, % |
0.14 |
0.13 |
Chloride, % |
0.21 |
0.20 |
5.การสุขาภิบาล
นอกจากการที่ต้องแยกพื้นที่เลี้ยงไก่ออกจากที่อยู่อาศัยและมีรั้วล้อมรอบ แล้ว การจัดการระบบสุขาภิบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคในพื้นเลี้ยงก็เป็นสิ่งสำคัญ สิ่งที่จำเป็นต้องมีภายในพื้นที่เลี้ยงไก่ คือ 1) คอกสำหรับแยกไก่ป่วยจากไก่ปกติ 2) อ่างน้ำยาจุ่มเท้าก่อนเข้าฟาร์มที่ใช้ยาลฆ่าเชื้อที่ได้รับอนุญาต หรือใช้น้ำส้มควันไม้ก็ได้ 3) มีอ่างล้างมือ และ 4) บ่อสำหรับทิ้งซากไก่ที่ลึกอย่างน้อย 1.5 เมตร มีหลังคาครอบ และมีรั้วป้องกันสัตว์อื่นเข้าในบริเวณบ่อทิ้งซาก
รั้วและคอกพักแยกไก่ป่วย
อ่างน้ำยาจุ่มเท้าและอ่างล้างมือ
บ่อทิ้งซากไก่ตาย พร้อมฝาปิด
การดูแลสุขภาพไก่ นิยมใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรบดผสมในอาหารให้ไก่กินเพื่อการป้องกันโรคหรือรักษาอาการหวัด หากจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ต้องมีระยะเวลาปรับเปลี่ยนก่อนที่จะนำผลผลิตมาขายเป็นไข่อินทรีย์อีกครั้งอย่างน้อย 6 สัปดาห์
6.การจัดการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์
การจัดการเลี้ยงดูไก่ไข่อินทรีย์ ต้องจัดการให้เป็นไปตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ คือ ไก่ต้องปราศจากสิ่งเหล่านี้ 1) ความหิวและกระหาย 2) ความกลัวหรือความกังวลใจ และ 3 ) ความเจ็บปวดหรือความเสี่ยงในการรับเชื้อโรค นอกจากนี้ ไก่ต้องได้รับความสะดวกสาย และได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติด้วย ดังนั้น ในการจัดการเลี้ยงดูจึงต้องให้ไก่ได้รับอาหารและน้ำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยไก่ให้ออกนอกโรงเรือนหลังจากไก่วางไข่และได้รับอาหารในตอนเช้า โดยทั่วไป สามารถปล่อยไก่ออกนอกโรงเรือนได้ คือ หลังจาก 10.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้ไก่บางตัวออกวางไข่นอกโรงเรือน และเมื่อถึงช่วงเวลาเย็นก่อนที่จะมืด ควรให้อาหารไก่อีกครั้ง เพื่อให้ไก่ได้มีเวลากินอาหารก่อนมืด และได้จัดหาที่นอนบนคอนตามพฤติกรรมธรระมชาติ
เพื่อป้องกันไก่ไม่ให้เข้าไปนอนในรังไข่ และถ่ายมูลในรังไข่ ซึ่งจะมีผลทำให้ผลผลิตไข่สกปรก จึงควรหัดให้ไก่รู้จักที่นอนและที่ไข่ โดยเมื่อนำไก่สาวเข้ามาเลี้ยงใหม่ๆ ด้องขึงตาข่ายปิดส่วนที่เป็นรังไข่ เพื่อป้องกันไก่เข้าไปนอนในช่วงเย็นไก่จะมานอนบนคอนที่เตรียมไว้ให้ และในตอนเช้า ให้เปิดตาข่ายออก เพื่อให้ไก่เข้าไปทำความคุ้นเคยกับรังไข่ก่อนจะเริ่มวางไข่ ทำเช่นนี้ทุกวันเป็นระยเวลา 1 เดือน หลังจากนั้น ไก่จะมีปรับตัว ความคุ้นเคยกับพื้นที่ต่างๆในโรงเรือนเอง
7.การทำบรรจุภัณฑ์ไข่ไก่อินทรีย์
ในการบรรจุผลผลิตไข่อินทรีย์เพื่อจัดจำหน่าย จะต้องทำในบริเวณที่สะอาด ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนจากสิ่งไม่พึงประสงค์ หรือมีสิ่งพาหะนำโรค เช่น หนู นก และแมลง ควรบรรจุในหีบห่อที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายทางชีวภาพได้ ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ในการเก็บรักษาและขนส่ง ควรรักษาความเป็นผลิตผลอินทรีย์ด้วย โดยการไม่นำไปปนกับผลิตภัณฑ์ทีไม่ใช่อินทรีย์ หรืออยู่ใกล้สารเคมีใดๆ บรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้บรรจุไข่ไก่อินทรีย์ คือกล่องกระดาษที่มีขนาดบรรจุ 6 และ 10 ฟอง การติดฉลากและการกล่าวอ้างผลผลิตไข่อินทรีย์ ต้องได้รับการตรวจและอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ก่อน จึงจะนำมาใช้ในบรรจุภัณฑ์ได้
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ของฟาร์มมหาวิทยาลัย
8.ตลาดไข่ไก่อินทรีย์
การจัดจำหน่ายไข่อินทรีย์ สามารถจำหน่ายได้หลายช่องทาง ทั้งในตลาดของเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ หรือซูเปอร์มาร์เกต โดยฟาร์มมหาวิทยาลัยส่งไข่ไปจำหน่ายยังริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต จังหวัดเชียงใหม่ มีต้นทุนค่าบรรจุภัณฑ์ และค่าขนส่งดังนี้
ราคาขายส่งไข่ให้กับริมปิง ซูเปอร์มาเก็ต
ขนาด 10 ฟอง ไซส์ M กล่องละ 81 บาท
ขนาด 10 ฟอง ไซส์ S กล่องละ 76 บาท
ขนาด 6 ฟอง ไซส์ M กล่องละ 49 บาท
ขนาด 6 ฟอง ไซส์ S กล่องละ 46 บาท
9.ต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์
จากการเก็บข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ขนาด 150 ตัวของฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ปี 252-2563 มีรายละเอียดดังด่อไปนี้
ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนครั้งแรก
ต้นทุนผันแปรระหว่างการเลี้ยง
ผลการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ระยะเวลา 1 ปี
ต้นทุนและผลตอบแทนกรณีศึกษาการเลี้ยงไก่ไข่ 150 ตัว
ต้นทุนการเลี้ยง
รวมต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ต่อปีจำนวน 150 ตัว เท่ากับ 182,523 บาท คิดเฉลี่ยต่อตัว 1,216 บาท
ผลตอบแทนจากการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ จำนวน 150 ตัว
รวมรายได้ตลอดการเลี้ยง 207,706 บาท
ได้ผผลตอบแทนจากการเลี้ยง 25,184 บาท